ความรักและความชอบในการขับขี่ของแต่ละคน ย่อมมีใจรักต่างกัน บางคนชอบความไว ขับสนุก เลี้ยวโฉบเฉี่ยว ยางที่ใช้ก็จะต้องเป็นยางที่เหมาะกับความเร็ว บางคนรักในความ นุ่ม เงียบ เข้าโค้งนวลๆ อาจเพราะเป็นรถครอบครัว จุดประสงค์การใช้ก็จะต่างกัน ยางที่ใช้ ก็ต่างกัน แล้วประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ประสิทธิภาพในการเกาะถนน ความปลอดภัย จะเหมือนกันหรือไม่ อารมณ์และความรู้สึดที่สัมผัสถนนจะต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาในหัวข้อที่ว่า ยางรถยนต์ Sport กับ ยาง Comfort มีผลกับการเกาะถนนแค่ไหน ? มาดูกันเลยครับ 

 

การเกาะยึดถนนของรถยนต์ (Road Holding) คืออะไร ?

 

 การเกาะยึดถนน (Road Holding) หมายถึง สมรถนะการเกาะยึดถนนของรถและการทรงตัว ที่ดีในทุกระดับความเร็วของรถและในทุกสภาพการขับขี่ นอกจากนั้นรถยังสามารถเลี้ยวโค้งได้ด้วย ความเร็วสูงบนพื้นฐานความปลอดภัย ถ้ารถเสียการทรงตัวอาจทำให้เกิดการพลิกคว่ำ ไถลลื่น ตัวการ ที่ทำให้การทรงตัว ได้แก่ แรงหนีศูนย์ แรงลมที่ปะทะตัวด้านข้าง การกระดอนของล้อที่วิ่งบนถนนไม่เรียบ และประสิทธิภาพของระบบรองรับ นอกจากนั้น ปัจจัยประกอบการเกาะยึดถนนของรถ

ดังนั้นการออกแบบรถที่ดีที่สุดฐานล้อหน้าของรถจึงควรจะแคบกว่าฐานล้อหลังในลักษณะที่สมดุล ซึ่งจะทำให้การทรงตัวของรถดีและมีรัศมีวงเลี้ยวแคบ รถมีความคล่องตัวขณะเลี้ยวโค้ง ความยาวช่วงล้อหรือ ระยะห่างระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังของรถ (เป็นระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของล้อหน้าและล้อหลัง ในด้านเดียวกัน)

การออกแบบรถยนต์ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อการแข่งขันในด้าน ธุรกิจ การปรับแต่งของแต่ละบริษัทจะมุ่งเน้นที่รูปทรงและสมรรถนะในการขับเคลื่อน โดยมุ่งเน้นให้รถ แหวกอากาศไปได้ง่าย ด้านหน้าของรถยนต์จึงมักจะตัดเฉียงบริเวณหน้ากระจกหรือทำหน้าเอียง (Slant Nose) เพื่อลดแรงต้านแรงอากาศ ดังนั้นรูปแบบของรถจึงมีลักษณะรูปทรงเพรียวลมกระแสอากาศที่ไหล ผ่านทั้งด้านบนและด้านล่างของรถจะต้องราบเรียบ ปราศจากสิ่งกีดขวางหรือมีน้อยที่สุด

 

แรงต้านทานอากาศของรถ (Air Resistance) หมายถึง แรงต้านทานของรถยนต์ แรงต้านจะเปลี่ยน แปลงตามอัตราความเร็วของรถ แบ่งออกได้เป็น

 

  1. แรงฉุด จะขึ้นอยู่กับรูปทรงของรถเป็นสำคัญ นอกจากนั้น อุปกรณ์ต่างๆ ที่ยื่นออกมานอก ตัวรถก็มีส่วนเพิ่มแรงฉุดอากาศให้มากขึ้น เช่น กระจกมองข้าง แผ่นป้ายทะเบียน แผ่นป้ายทะเบียน และหม้อพักไอเสียเป็นต้น

  2. แรงเสียทาน ความเรียบของผิวรถจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับแรงเสียดทาน ผิวรถที่เรียบจะมีแรงเสียด ทานต่ำ แรงเสียดทานจะมีค่าประมาณ 10% ของแรงต้านทานอากาศของรถทั้งหมด

  3. การไหลของอากาศผ่านรถยนต์ อากาศส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้ภาย เช่น การระบายความร้อน การไหลของอากาศจะเพิ่มหรือลดแรงต้านทานอากาศ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและการเบี่ยงเบนการไหลของ อากาศ

 

อุปกรณ์ที่ช่วยให้รถยึดเกาะถนน

 

ขณะที่รถวิ่งอาจเกิดอาการยกตัวขึ้นของรถเรียกว่า อาการแจ็ก (Jack) เป็นอาการที่เกิดขึ้นในขณะที่รถ เลี้ยวโค้ง โดยจะเกิดแรงยกกระทำกับรถยนต์ ทำให้ล้อด้านนอกลอยตัวขึ้น ทำให้การเกาะยึดถนนไม่ดี ถ้าแรง ยกมีมากอาจทำให้รถเกิดการพลิกคว่ำได้ ดังนั้นจึงมีการพัฒนาอุปกรณ์ที่ช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น ที่พบ เห็นโดยทั่วไปนั้น ได้แก่

 

  1. แอร์แดม (Air Dam) เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งบริเวณด้านหน้าส่วนล่างของรถยนต์โดยเฉพาะรถยนต์ และรถบรรทุกเล็ก แอร์แดมจะเพิ่มแรงกดส่วนหน้าในขณะที่รถวิ่งด้วยอัตราความเร็วสูง

  2. แพนอากาศ (Air Foil) เป็นอุปกรณ์แอโรไดนามิกที่ถูกออกแบบติดตั้งเข้ากับรถยนต์เพื่อเพิ่มการ เกาะยึดถนน โดยการเพิ่มแรงกดในแนวดิ่งที่กระทำกับรถ โดยทั่วไปแพนอากาศติดตั้งเข้ากับรถยนต์ มีลักษณะคล้ายกับปีกเครื่องบินกลับข้าง การใช้แพนอากาศทำให้รถเกาะถนนได้ดี

  3. สปอยเลอร์ (Spoiler) เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งบนรถยนต์ โดยทั่วไปอาจจะเป็นกันชนหน้าหรือบนท้าย กระโปรงหลัง สปอยเลอร์จะช่วยลดแรงฉุดอากาศหรือเพิ่มแรงกดดัน สปอยเลอร์จะทำลายกระแสการไหล ตามปกติของอากาศเหนือรถยนต์ และใต้ท้องรถยนต์ จึงได้ชื่อเรียกว่า “Spoiler”

 

การเกาะถนนของยางรถยนต์ เกิดจากอะไร

 

การเกาะถนนของยางรถยนต์สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุแต่สาเหตุหลักสำคัญที่ทำให้ยางรถยนต์เกาะถนนคือแรงเสียดทาน (traction) ระหว่างพื้นถนนและพื้นผิวยางของยางรถยนต์ สาเหตุที่สำคัญประกอบด้วย

 

  • ความเกี่ยวพันระหว่างยางกับถนน: ความเกี่ยวพันระหว่างพื้นถนนและยางรถยนต์มีความสำคัญอย่างมากในการเกาะถนน ยางรถยนต์ต้องมีความเสถียรและสัมพันธ์กับพื้นถนนให้ดีเพื่อให้มีแรงเสียดทานที่เพียงพอในการช่วยให้รถยนต์มีการเคลื่อนที่ได้ตามที่ต้องการและหยุดอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ

  • สภาพถนน: สภาพถนนมีผลมากต่อการเกาะถนนของยางรถยนต์ ถนนที่เรียบและแห้งมีแรงเสียดทานที่ดีกว่าถนนที่เปียกหรือเปื่อย

  • สภาพอากาศ: สภาพอากาศอาจมีผลต่อการเกาะถนนของยางรถยนต์ เช่นฝน ที่อาจทำให้ถนนเปียกและมีความเย็นเย็นที่ส่งผลกระทบต่อความเกาะของยาง

  • สภาพของยางรถยนต์: สภาพของยางรถยนต์มีความสำคัญในการเกาะถนน เมื่อยางเก่าและมีสภาพที่ไม่ดี มันอาจไม่มีความสามารถในการเกาะถนนได้อย่างเหมาะสม

  • การลดความเร็ว: การเร่งหรือเบรกอย่างกระทันหันอาจทำให้ยางรถยนต์สูญเสียการเกาะถนน ดังนั้นการขับรถอย่างระมัดระวังและปรับความเร็วให้เหมาะสมสำหรับสภาพถนนเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการสูญเสียความเกาะถนนของยางรถยนต์

  • ระบบเซ่นสปิน: บางรถยนต์มีระบบเซ่นสปิน (traction control system) ที่ช่วยควบคุมยางและถนนเพื่อป้องกันเกาะถนนในสภาพการขับขี่ ที่สามารถลื่นไถลได้

 

การเกาะถนนของยางรถยนต์มีความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการขับขี่ การตรวจสอบและรักษายางรถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่ดีและการขับรถอย่างประมาณสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียความเกาะถนนของยางรถยนต์ได้.

 

ประเภทยางรถยนต์ และดอกยางมีส่วนช่วยในการเกาะถนนมากน้อยแค่ไหน

 

ดอกยาง (tread) ของยางรถยนต์มีบทบาทสำคัญในการเกาะถนนมากมาย ดอกยางเป็นส่วนที่มีลวดเส้นและร่องบนพื้นผิวของยาง มันมีส่วนที่ติดต่อกับถนนและช่วยให้ยางรถยนต์เกาะถนนได้ดีขึ้น ดอกยางมีส่วนช่วยในการเกาะถนนในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้:

 

  • ร่องบนดอกยางช่วยในการนำน้ำฝนออกจากพื้นถนนในสภาวะฝนตก เมื่อน้ำฝนไหลผ่านร่องยาง มันจะช่วยให้พื้นถนนแห้งขึ้นและลดความเสี่ยงในการลื่นไถล

  • การเพิ่มแรงเสียดทาน: ร่องบนดอกยาง มีลวดเส้นที่ช่วยให้ยาง มีการเกาะถนนได้ดีขึ้น ลวดเส้นช่วยในการเพิ่มแรงเสียดทานระหว่างยางและถนน ทำให้รถยนต์มีการควบคุมและเร่งเสียดทานที่ดีในสภาพถนนแตกต่างกัน

  • การสร้างความเร็ว: ร่องบนดอกยางมีลวดเส้นที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความเร็วในการดูดน้ำออกจากพื้นถนน ส่วนนี้ช่วยให้ยางรถยนต์เกาะถนนได้ดีในสภาพถนนเปียกหรือมีน้ำขัง

 

ดอกยางไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่มีผลต่อการเกาะถนนของยางรถยนต์ สภาพถนนและสภาพอากาศก็มีความสำคัญอย่างมากในการกำหนดความเกาะถนนของยาง ดังนั้นการรักษาดอกยางในสภาพที่ดีและการเลือกใช้ยางที่เหมาะสมสำหรับสภาพถนนและการขับขี่เป็นสิ่งสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพของการเกาะถนนของยางรถยนต์ของคุณ.

 

ดอกยางประเภทใดเกาะถนนดีที่สุด

 

การเลือกดอกยางที่เกาะถนนได้ดีที่สุดนั้นจะขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพถนนที่คุณพบเจอบ่อยๆ ดอกยางมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่เหมาะกับรถยนต์ของคุณและการขับขี่ของคุณอาจจะไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ เรามาดูกันว่าดอกยางประเภทใดเกาะถนนได้ดีที่สุด

 

  • Summer Tires : ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในสภาพถนนแห้งและเปียกในสภาพอากาศที่อุณหภูมิสูง พวกนี้มักมีการออกแบบดอกยางที่ช่วยให้มีการเกาะถนนได้ดีในสภาพถนนแห้งและมีประสิทธิภาพการเร่งเสียดทานดี

  • Winter Tires : ดอกยางสำหรับฤดูหนาวถูกออกแบบมาเพื่อให้มีความเกาะถนนในสภาพถนนที่มีหิมะและน้ำแข็ง พวกนี้มักมีดอกยางที่มีดอกลึกและวัสดุที่ยืดหยุ่นในอุณหภูมิต่ำ เพื่อเพิ่มความเกาะถนน

  • All-Season Tires: ดอกยางออลซีซันเป็นทางเลือกที่หลากหลายและใช้ได้ในสภาพถนนแห้งและเปียก พวกนี้มักมีดอกยางที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปและสามารถให้ประสิทธิภาพในสภาพถนนทั่วไป

  • ดอกยางสปอร์ต (Performance Tires): ดอกยางสปอร์ตมักมีการออกแบบดอกยางที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่ที่มีความเร็วสูง พวกนี้มักมีความเกาะถนนในสภาพถนนแห้งดี แต่อาจมีประสิทธิภาพที่ต่ำในสภาพถนนเปียกหรือถนนที่เป็นโค้ง

  • ดอกยางออฟโรด (Off-Road Tires): ดอกยางออฟโรดมักมีดอกยางที่ลึกและออกแบบมาเพื่อการขับขี่ในเส้นทางที่ลาดชันหรือที่มีขอบดิน พวกนี้มีความเกาะถนนในสภาพเหล่านั้นได้ดีพอสมควร แต่กับทางเรียบอาจจะไม่ดีนัก

 

เคยสงสัยหรือไม่ ทำไมยางรถยนต์ถึงมีลาย ?

 

ลายดอกยางหรือรูปแบบบนผิวดอกยางมีหลายประโยชน์และออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์การขับขี่และการใช้งานต่าง ๆ มาดูกัน ว่ามันมีประโยชน์อย่างไร

 

  • มีเพื่อเกาะถนน: ลายดอกยางที่ออกแบบมาให้มีดอกหรือร่องบนผิวยางช่วยในการเกาะถนน โดยเฉพาะในสภาพถนนแห้งและเปียก ลายยางรูปแบบนี้ช่วยให้ยางรถยนต์มีความสามารถในการเกาะถนนได้ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพการควบคุมรถยนต์ที่ดีขึ้นด้วย

  • มีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ: ลายดอกยางที่มีรูปแบบพิเศษออกแบบเพื่อช่วยในการระบายน้ำออกจากพื้นถนนในสภาวะฝนตกหรือถนนเปียก โดยลายดอกยางช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียความเกาะถนนของยางรถยนต์นั่นเอง

  • มีเพื่อประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่: รูปแบบลายดอกยางที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่ โดยเฉพาะในการเร่งหรือเบรก ลายดอกยางที่มีการออกแบบเพื่อปรับปรุงความเร่งและการเบรกจะช่วยให้รถยนต์มีประสิทธิภาพการควบคุมและประหยัดพลังงานมากขึ้น

  • มีเพื่อลดความเสื่อมสภาพ: ลายดอกยางช่วยในการกระจายแรงกายภายในยางรถยนต์และช่วยลดการสึกหรอที่เกิดขึ้นในระหว่างการขับขี่ ทำให้ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

  • มีเพื่อลดเสียงรบกวน: ลายดอกยางยังมีบทบาทในการลดเสียงรบกวนในระหว่างการขับขี่ รูปแบบลายดอกยางที่ออกแบบมาเพื่อลดเสียงสั่นสะเทือนจากถนนและระบายเสียงรบกวนสามารถช่วยให้การขับขี่เป็นสบายมากขึ้น

 

ในสรุป ลายดอกยางไม่ได้ถูกออกแบบมาเพียงแค่เพิ่มความสวยงาม แต่มีบทบาทสำคัญในประสิทธิภาพการขับขี่ ประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพทั่วไปของยางรถยนต์ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน.

 

ถ้ายางยิ่งเก่า ร่องเหลือน้อยๆ จะยิ่งเกาะถนนใช่ไหม ?

 

มีบทความบอกไว้ว่า ถ้าหน้ายางเรียบ พื้นที่สัมผัสกับถนนจะมีมากขึ้น แล้วยางเก่าๆที่ร่องเหลือน้อยๆจะยิ่งเกาะใช่หรือไม่ ? 

ผิดครับ ยางเก่าแม้ผิวจะเรียบมีพื้นที่สัมผัสถนนมากขึ้น แต่ด้วยเนื้อยางที่แข็ง ทำให้มันไม่สามารถยึดเกาะถนนได้ ยางที่แข็งและลื่นกับยางใหม่ๆที่เนื้อยางยังดีอยู่ แรงเสียดทานมันต่างกันมากๆ ลองนึกถึงยางลบดินสอที่ใช้ตอนเด็กๆนะครับ ยางลบใหม่ๆลบได้เนียนตอนฝนยางลบจะหนืดนิดๆ ส่วนยางลบเก่าๆเนื้อแข็ง จะลื่นไปกับกระดาษแถมลบไม่ค่อยออก

 

รู้หรือไม่ว่า ทำไมยิ่งใช้ยาง ถึงยิ่งไม่เกาะถนน

 

เมื่อผ่านการใช้งานไปเกิน 3 ปีแล้วมักจะพบเจอกันเป็นปกติ ว่าทำไมใช้ยางไปเรื่อยๆแล้วยางถึงเกาะถนนน้อยลงกว่าเดิมเยอะ เสียงดัง เริ่มแข็งกระด้าง ทำไมไม่มียางรถยนต์ที่ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนที่ซื้อมาตอนแรกบ้าง

อย่างแรกเลยเป็นเรื่องของความปลอดภัยนั้นก็คือเรื่องการเกาะถนน ซึ่งก็จะแบ่งเป็นสองกรณีก็คือ กรณีถนนแห้ง และ อีกกรณีคือ ถนนเปียก เรามาที่ถนนแห้งก่อน ซึ่งถนนแห้งต้องอธิบายก่อนว่าการที่ยางยึดเกาะถนนได้ดีนั้นหน้ายางก็ต้องมีพื้นผิวสัมผัสกับพื้นถนนให้มากที่สุดถึงจะดียิ่งมีพื้นผิวสัมผัสมากยิ่งเกาะมาก แต่เรื่องนี้ก็เป็นประเด็นของการออกแบบลายดอกยางของแต่ละยี่ห้อไปแต่อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญในการยึดเกาะถนนแห้งนั้นก็คือเนื้อยางครับ อยากให้เพื่อนลองนึกสภาพของเนื้อยางเปรียบเสมือนยางลบ ถ้ายางลบใหม่ๆเวลาเราถูกับโต๊ะก็จะมีความหนืดมากนั่นก็หมายถึงว่าเกาะกับโต๊ะดี ยางรถยนต์ก็เช่นกันถ้ามีความนิ่มและยืดหยุ่นดีก็จะทำให้มีการยึดเกาะถนนที่ดี

แต่เมื่อพอใช้ไปนานๆ ต้องเข้าใจว่ายางกับความร้อนบนท้องถนนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกกันอยู่แล้วยิ่งยางเจอความร้อนก็ยิ่งแข็งขึ้นเป็นเรื่องปกติโดยอาการที่จะออกก็คือไม่สามารถจิกได้ หรือ มีสภาพแตกลายงาเยอะๆซึ่งก็จะส่งผลต่อเรื่องของการสามารถในการเกาะถนน ดังนั้นด้วยค่านวัตกรรม ค่าเทคโนโลยีต่างๆ แม้ว่ายางจะสึกไปมากเท่าไหร่ถ้าเนื้อยางนั้นยังคงสภาพอยู่ก็จะช่วยทำให้ยางสามารถยึดเกาะบนถนนแห้งได้ดีนั่นเอง ทำให้ยางแต่ละยี่ห้อมีราคา และ คุณภาพที่แตกต่างกันไป ถ้าอยากมองหา ยางรถยนต์คุณภาพดี เราขอแนะนำ ยางรถยนต์ Toyo  ยางรถยนต์ที่ดีที่สุด ที่มีทั้ง ยางสปอร์ตและยางคอมฟอร์ท ที่ตรงตามความต้องการของคุณ 

 

ยาง Comfort จาก Toyo Tires

 

Proxes C2S

 

PROXES Comfort IIs ลักษณะดอกยางแบบไม่สมมาตร (Asymmetric Pattern) ที่มี Flexible taper groove และโครงสร้างยางออกแบบพิเศษ จึงให้ทั้งความนุ่มนวล ความเงียบอย่างเหนือระดับขณะขับขี่ ให้ความมั่นใจในการบังคับเลี้ยวและควบคุมทิศทางได้อย่างแม่นยำทั้งสภาพถนนเปียกและถนนแห้ง พร้อมส่วนผสมของเนื้อยางสูตรใหม่

“Fuel efficient compound” ที่ให้ค่าความต้านทานการหมุนต่ำช่วยให้การสิ้นเปลืองพลังขับเคลื่อนของยานยนต์ลงลด*

*เมื่อเปรียบเทียบกับ PROXES C1S

Tranpath Lu II

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด! ของยางรถยนต์อเนกประสงค์ นุ่ม..เงียบ สบายตลอดการเดินทาง โครงสร้างแข็งแกร่ง ยึดเกาะถนนบนทุกพื้นผิว ทางเลือกเพื่อความปลอดภัย

 

ยางรถยนต์ Sport จาก Toyo Tires

 

PROXES TR1

Proxes TR1 ยาง Sporty Ultra สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ล่าสุดที่นำเอา 2 สุดยอดยางสายพันธุ์สปอร์ต มารวมตัวกัน ด้วยเอกลักษณ์ลายดอกยางแบบไม่สมมาตรจากยาง Proxes Sport และ ลายดอกยางแบบ V-Shape Design จาก Proxes T1R มาออกแบบร่วมกันเป็นดอกลายดอกยางแบบไม่สมมาตรที่เป็นเอกลักษณ์โฉบเฉี่ยวไม่ซ้ำใคร เพื่อการควบคุมที่สมบูรณ์แบบบนทุกพื้นผิว

และครั้งแรกของยางรถยนต์กับเทคโนโลยี TIRE WEAR INDICATOR ที่สามารถเช็คได้ว่าเมื่อไหร่ถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนยางรถยนต์ครั้งต่อไป

 

PROXES SPORT

 

Proxes Sport ยางสไตร์สปอร์ต ประสิทธิภาพสูง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีการออกแบบบล็อกดอกยางใหม่ล่าสุด เพื่อที่สุดของทุกการควบคุม ช่วยให้การยึดเกาะบนถนนแห้ง และ เปียกเป็นไปอย่างดีเยี่ยม มั่นใจขณะเข้าโค้งแม้ด้วย ความเร็วสูง ควบคุมฉับไวทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยี T.MODE ที่ใช้ในการออกแบบลายดอกยาง และโครงสร้างยางสำหรับรถยนต์ที่มีพละกำลังสูง ควบคู่กับความนุ่ม..สบาย และ ประสิทธิภาพความคงทนคุ้มค่าที่เหนือกว่า เต็มประสิทธิภาพการยึดเกาะบนทุกพื้นผิวด้วย “Nano Balance Technology” ส่วนผสมคอมปาวด์สูตรใหม่ล่าสุดเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะบนถนนเปียกหรือแห้ง และช่วยลดระยะในการเบรกให้สั้นยิ่งขึ้น ให้คุณปลอดภัย มั่นใจ ทุกการขับขี่

 

ยาง Sport แต่ Comfort 

 

Proxes CR1 

มากกว่าความนุ่ม…เงียบ กับที่สุดของสมรรถนะ บนถนนเปียกขีดสุดแห่งการควบคุม ให้การเดินทางที่ผ่อนคลายอย่างมีระดับตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะComfort หรือ Sport ย่อมมีการเกาะถนนที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน การเกาะถนนที่มากกว่า อาจจะต้องและมากับความนุ่มเงียบที่หายไป เพราะหน้ายางเรียบไปกับถนนมากกว่า หรือยางที่นุ่มเงียบและคอมฟอร์ด อาจจะต้องแลกมากับการเกาะถนนที่น้อยกว่าและขับไม่สนุกเท่า ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจุดประสงค์การใช้งานของแต่ละคน และการขับขี่อย่างปลอดภัย การดูแลยางรถยนต์ของท่านจะทำให้การขับขี่ทุกรูปแบบได้ประสิทธิภาพสูงสุด


เคล็ดลับล่าสุด